อากาศร้อนๆ แบบนี้ ระวัง! อันตรายจากฮีทสโตรก
“โรคลมแดด” หรือ “ฮีทสโตรก” (Heatstroke) คือ โรคอันตรายที่พบได้บ่อยในช่วงหน้าร้อน โดยเกิดจากที่อยู่ท่ามกลางอากาศร้อนมากเกินไป ทำให้เกิดภาวะร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าปกติ จนทำให้ความร้อนในร่างกาย (Core Temperature) สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส และไม่สามารถระบายความร้อนออกมาทันที เมื่อเกิดอาการควรได้รับการรักษาในทันที เพราะอาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ หากได้รับการรักษาที่ล่าช้า อาจทำให้อันตรายถึงแก่ชีวิตได้
อาการของโรคลมแดด
- ตัวร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ความร้อนในร่างกายสูงมากกว่าหรือเท่ากับ 40 องศาเซลเซียส
- สับสน, กระสับกระส่าย, มึนงง
- ชัก หรือหมดสติ
- เหงื่อออกน้อย หรือไม่มีเหงื่อเลย
- คลื่นไส้อาเจียน
- ผิวหนังแดง
- หายใจเร็ว, ใจสั่น, หัวใจเต้นเร็ว
- ปวดศีรษะ
ใครที่มีความเสี่ยงโรคลมแดด (Heatstroke)
- เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ดีเท่าคนหนุ่มสาว
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง หรือโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน
- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินหรืออ้วน
- ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ
- ผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแดดเป็นเวลานาน เช่น ออกกำลังกาย นักกีฬากอล์ฟ เกษตรกร ผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- ผู้ที่ทำงานในห้องแอร์เป็นเวลานานแล้วออกมาเจอกับอากาศร้อนจัด จนร่างกายปรับตัวไม่ทัน
- ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม และในสภาพอากาศที่ร้อนจัด แอลกอฮอล์ออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดเร็วและแรงขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น จนอาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้
การป้องกันโรคลมแดด
- หากรู้ว่าจะต้องไปทำงานท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อน ก็ควรเตรียมตัวโดยการออกกำลังกายกลางแจ้งอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้งๆ อย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ร่างกายชินกับสภาพอากาศร้อน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ (Heat Acclimatization)
- ดื่มน้ำ 1 - 2 แก้ว ก่อนออกจากบ้านในวันที่มีอากาศร้อนจัด และหากต้องอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนหรือออกกำลังกลางสภาพอากาศร้อน ควรดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ 1 ลิตร แม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม และแม้ว่าจะทำงานในที่ร่มก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6 - 8 แก้ว
- ใส่เสื้อผ้าสีอ่อน ไม่หนา น้ำหนักเบา และสามารถระบายความร้อนได้ดี
- ใช้ครีมกันแดด SPF 15 ขึ้นไป
- หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดด หรือ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในอากาศร้อนจัด
- หลีกเลี่ยงการกินยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก โดยเฉพาะก่อนการออกกำลังกายหรือการอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนเป็นเวลานาน เนื่องจากยากลุ่มนี้อาจมีผลข้างเคียงให้เหงื่อออกลดลง ทำให้การระบายความร้อนของร่างกายแย่งลงได้
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และยาเสพติดทุกชนิด
- ในเด็กเล็กและคนชราควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ต้องจัดให้อยู่ในห้องที่อากาศระบายได้ดี และอย่าปล่อยให้เด็กหรือคนชราอยู่ในรถที่ปิดสนิทตามลำพัง
ทำอย่างไร เมื่อพบผู้ที่มีอาการฮีทสโตรก
- พาผู้ป่วยหลบเข้าที่ร่มหรือห้องที่มีความเย็น
- ให้นอนราบยกเท้าทั้งสองข้างขึ้นสูง เพื่อเพิ่มการไหลเวียน
- ถอดเสื้อผ้า ให้เหลือน้อยชิ้น หรือเท่าที่จำเป็น กรณีเป็นสุภาพสตรีให้คลายชุดชั้นใน
- ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น เช็ดตามตัววางถุงน้ำแข็งตามซอกคอ รักแร้และขาหนีบ ร่วมกับใช้พัดลมเป่า
- หากไม่หมดสติให้ดื่มน้ำเปล่ามากๆ
- รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว โดยเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
- อันตรายหากช่วยเหลือไม่ทัน อาจถึงขั้นชัก หมดสติ และเสียชีวิตได้
หากเจอผู้ป่วยที่มีอาการฮีทสโตรกให้รีบ โทร.1669 หน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน หรือ โทรสายด่วนฉุกเฉิน 1745 โรงพยาบาลในเครือบางปะกอก เพื่อเข้ารักษาผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว
สนับสนุนข้อมูลโดย : พญ.นุชจรี สินสุขพร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน
โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 1745